วัตถุประสงค์ของสารสนเทศมีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน ซึ่งระบบสารสนเทศแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ 6 ประเภท คือ
1. Expert System (ES)
เป็นระบบที่สร้างขึ้นเพื่อกลุ่มผู้บริหารระดับสูง ระบบนี้มีนำมาใช้ในการทำงานเพียงไม่กี่องค์กร ส่วนมากจะเป็นงานเฉพาะทาง เช่น ระบบนำร่องทางการบิน ระบบตรวจสอบสารเคมี ในส่วนของการศึกษาที่นำมาใช้คือ ระบบ ES สำหรับการเพิ่มหลักสูตรสถานศึกษาซึ่งจะช่วยแสดงแนวทางในการเพิ่มหลักสูตร หรือการรับบุคลากรเพิ่มที่จะช่วยให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าแก่องค์กรมากที่สุด แต่ไม่ค่อยนิยมนำมาใช้เนื่องจากเป็นระบบที่ทำการพัฒนาได้ยาก มีราคาสูง และผลที่ได้จากระบบนี้ยังไม่ถูกต้อง 100 %
2. Exclusives Information System (EIS)
ระบบนี้คล้ายคลึงกับ ES คือ ทำหน้าที่เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริหาร เป็นระบบที่ตัดสินใจแทน โดยนำข้อมูลจากอดีตมาเป็นตัวชี้วัดในการตัดสินใจ เช่น การประมาณการจำนวนนักเรียนนักศึกษาในปีถัดไป เพื่อเตรียมหลักสูตรที่เหมาะสมล่วงหน้า ในประเทศไทยสถาบันการศึกษาไม่นิยมนำมาใช้เนื่องจากมีราคาสูง และผู้พัฒนาระบบต้องมีความชำนาญทั้งในเรื่องการดูแลระบบและกระบวนการทำงานของสถาบันการศึกษาด้วย ส่วนมากระบบนี้นิยมมาใช้ในธุรกิจการลงทุน เช่น การพยากรณ์หุ้น มากกว่า
3. Decision Supporting System (DSS)
เป็นระบบที่เสนอทางเลือกให้แก่ผู้บริหาร ทำหน้าที่แตกต่างจาก EIS เป็นการทำงานที่อาศัยการประมวลผลข้อมูลมากว่าการนำข้อมูลจากอดีตมาทำนายผลในอนาคต โดยผู้บริหารต้องเป็นผู้ป้อนข้อมูล เข้าไปแล้วระบบจะประมวลผลออกมา เช่น ถ้าเพิ่มจำนวนบุคลากร จะทำให้รับผู้เรียนได้จำนวนเท่าไรและต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ระบบนี้มีความสามารถด้อยกว่า ES และ EIS แต่สามารถพัฒนาและราคาถูกกว่ามาก
4. Management Information System (MIS)
เป็นระบบที่ช่วยจัดการในด้านข้อมูลข่าวสารภายในองค์กรเพื่อควบคุมการทำงานในองค์กรให้เป็นไปอย่างราบรื่น เช่น ระบบการติดต่อสื่อสารภายในองค์กร ระบบการควบคุมการเข้าทำงานหรือการจ่ายเงินเดือนของบุคลากร และระบบฐานข้อมูลของครูอาจารย์ ผู้เรียนหรือบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ระบบนี้เน้นการจัดเก็บและเรียกใช้ข้อมูลสำคัญสำหรับผู้บริหารระดับกลางที่จะสรุปข้อมูลนำเสนอต่อผู้บริหารระดับสูงได้อย่างรวดเร็ว แต่มีข้อเสียคืออาจไม่ตรงกับความต้องการขององค์กร
5. Official Information System (OIS)
เป็นระบบที่สนับสนุนการปฏิบัติงานประจำวัน เช่น การทำรายงาน การทำบัญชี การทำแบบฟอร์มต่างๆ ส่วนมากเป็น software สำเร็จรูป ได้แก่
Microsoft Office เช่น
- Microsoft Win Word ช่วยในการสร้างเอกสารต่างๆ
- Microsoft Excel ช่วยในการสร้างเอกสารเชิงบัญชี การคำนวณ
- Microsoft PowerPoint ช่วยในการสร้างเอกสาร Presentation
- Microsoft Project ช่วยในการทำแผนงาน
CAI (Computer Assisted Instruction) เป็นระบบที่ช่วยครูผู้สอนสอนง่ายขึ้น หรือช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง
6. Transaction Processing System (TPS)
เป็นระบบที่นำข้อมูลดิบซึ่งยังไม่ผ่านการประมวลผลเข้าสู่ระบบ เช่น การกรอกข้อมูล การลงทะเบียน ระบบนี้มีความสำคัญซึ่งจะช่วยแยกแยะว่าข้อมูลนั้นถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ก่อนที่จะนำไปประมวลผล
สารสนเทศมีความจำเป็นและสำคัญต่อองค์กร คือ
1. ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานขององค์กร ช่วยในการเข้าถึงข้อมูลเบื้องต้นขององค์กรง่ายขึ้น เช่น ประวัติ นโยบาย วิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ เพื่อให้บุคลากรทราบเป้าหมาย/ข้อมูล จะได้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานให้บรรลุตามเป้าหมาย และเป็นการประชาสัมพันธ์องค์กรแก่บุคคลภายนอกให้เป็นที่รับรู้มากขึ้น
2. ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับบุคลากร ได้แก่ ข้อมูลบุคลากรทุกฝ่าย ทุกแผนก มีรายละเอียดของประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน ประวัติความรู้ความสามารถ ผลงาน ความดีความชอบ ค่าตอบแทนปัจจุบันและประวัติด้านสุขภาพ เพื่อใช้ประกอบการบริหารงานบุคคล เช่น การเลือกบุคลากรเข้าปฏิบัติงานในฝ่ายต่างๆ โดยใช้ข้อมูลประวัติการทำงาน ความรู้ความสามารถ เพื่อให้ได้บุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆ หรือใช้เพื่อพิจารณาความดีความชอบของบุคลากร
3. ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ช่วยในการการจัดเก็บข้อมูลภายในองค์กรอย่างเป็นระบบให้ง่ายต่อการเรียกใช้งาน เช่น การจัดทำเอกสาร การคำนวณ หรือการนำเสนอข้อมูลต่างๆ ในรูปแบบ PowerPoint หรือการจัดเก็บข้อมูลเพื่อการบริหารงบประมาณ การประมวลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
4. ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลภายนอก เช่น ระบบอินเตอร์เน็ตที่ช่วยให้องค์กรรับรู้ข้อมูล ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวจากภายนอกได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ในยุคปัจจุบันที่นำไปสู่การพัฒนาที่ทันต่อยุคสมัยมากขึ้น เช่น ผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม นโยบายจากภาครัฐ สภาวะ เศรษฐกิจของโลก
5. ระบบสารสนเทศที่ช่วยในการเรียนการสอน ได้แก่ สื่อประเภทต่างๆ ที่ช่วยในการเรียนการสอน เช่น สื่อ CAI คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ระบบการเรียนการสอนทางไกล ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกแก่ครูผู้สอน และเป็นแหล่งค้นคว้าแก่ผู้เรียนที่ต้องการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม